โรคฉี่หนู

ฝนปีนี้น้ำท่วมขังทุกพื้นที่ อย่าลืมส่งกำลังใจและระวังภัยจากโรคฉี่หนู

ฝนปีนี้น้ำท่วมขังทุกพื้นที่ อย่าลืมส่งกำลังใจและระวังภัยจากโรคฉี่หนู

ฤดูฝนปี พ.ศ.2567 นี้ ถือว่ามีมรสุมเข้ามาภายในประเทศไทยของเรามากยิ่งกว่าปีก่อน ๆ จนทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ทั้งน้ำท่วมขังแทบทุกพื้นที่ ทั้งน้ำป่าไหลหลากในบางภูมิภาค ทั้งมีผู้ประสบภัยเดือดร้อนกันทั่วทุกหย่อมหญ้า จนต้องหอบหิ้วข้าวของและสัตว์เลี้ยงที่รักอพยพย้ายขึ้นที่สูง แต่ในโชคร้ายก็ยังมีน้ำใจคนไทยที่ยิ่งใหญ่กว่าสายธาร ด้วยการส่งต่อข่าว บริจาคสิ่งของจำเป็น สนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ รวมถึงอาสาช่วยเหลือทั้งคน สัตว์ และสิ่งของต่าง ๆ กันอย่างเนืองแน่น ทางฮักษาคลินิกเองก็ขอส่งอีกหนึ่งกำลังใจให้กับทุกหน่วยงานด้วยเช่นกัน และเมื่อเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เช่นนี้ ทางเราจึงจะขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับโรคฉี่หนู ที่มักจะแอบแฝงมาคอยซ้ำเติมพร้อมกับมวลน้ำขัง 

โรคฉี่หนู คืออะไร?

โรคฉี่หนู หรือโรคไข้ฉี่หนู หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Leptospirosis เป็นโรคติดต่อประเภทจากสัตว์สู่คน (Zoonosis) โดยแรกเริ่มเดิมทีโรคฉี่หนูเกิดขึ้นมาจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Leptospira interrogans ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ในท่อหลอดไตของสัตว์ได้ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุขัยสั้น เช่น หนู ต่อมาเมื่อสัตว์ติดเชื้อเหล่านั้นปัสสาวะออกมา เชื้อแบคทีเรียก็จะถูกปล่อยออกมาด้วย ถ้าหากบริเวณนั้นมีน้ำท่วมขัง เชื้อโรคก็จะปนเปื้อนอยู่ตามแหล่งน้ำท่วมขังอีกทั้งยังสามารถดำรงอยู่ในแหล่งน้ำต่าง ๆ ได้นานหลายเดือนเลยทีเดียว โรคนี้จึงถูกเรียกว่าโรคฉี่หนูนั่นเอง 

ถึงอย่างนั้น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่น ๆ ก็สามารถมีเชื้อ Leptospira interrogans และก่อให้เกิดโรคฉี่หนูได้ไม่ต่างกัน เช่น สุกร โค กระบือ สุนัข ม้า แพะ แกะ ฯลฯ ซึ่งสัตว์ทุกประเภทที่มีเชื้อ Leptospira interrogans จะสามารถปล่อยเชื้อได้ตลอดเวลาหลายสัปดาห์ หรือตลอดช่วงชีวิต โดยที่สัตว์เหล่านั้นอาจจะไม่มีอาการป่วยหรือสัญญาณผิดปกติใด ๆ 

ซึ่งโรคฉี่หนูนี้ ไม่เพียงแต่จะปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถซุกซ่อนอยู่ได้ตามดินที่เปียกชื้น หรือพืชผักบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้การสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้อของโรคฉี่หนูเอง ก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน ปกติแล้วโรคฉี่หนูนี้มักจะพบได้บ่อยในหมู่ผู้ที่ทำงานภาคเกษตร เช่น ชาวนา ชาวไร่ หรือผู้ดูแลปศุสัตว์ต่าง ๆ แต่เมื่อถึงฤดูฝนที่มีน้ำท่วมขัง มีแหล่งน้ำที่ไหลมารวมกันในพื้นที่ปิด หรืออุทกภัยต่าง ๆ ทำให้ผู้ที่ต้องผจญกับน้ำท่วมขังเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้โรคฉี่หนูสามารถระบาดสู่คนทั่วไปได้ง่ายดายมากขึ้น 

โรคฉี่หนู สามารถแพร่ระบาดได้อย่างไร?

โรคฉี่หนูเป็นโรคที่สามารถแพร่จากสัตว์สู่คนได้อย่างง่ายดายก็จริง แต่พบเห็นกรณีที่แพร่จากคนสู่คนได้ยาก ดังนั้นหากมีคนรอบตัวหรือคนใกล้ชิดของคุณเป็นโรคฉี่หนู สามารถให้การช่วยเหลือและรักษาพยาบาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ เลย ซึ่งสำหรับการแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คนของโรคฉี่หนูนั้น สามารถสรุปได้ ดังต่อไปนี้ 

  • การสัมผัสสัตว์ติดเชื้อ 

เนื่องจากการจะสังเกตอาการและพบว่าสัตว์เหล่านั้นมีเชื้อแบคทีเรียของโรคฉี่หนูนั้น ค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยาก หากเป็นไปได้จึงควรหลีกเลี่ยงสัตว์พาหะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนูหรือสัตว์พาหะที่ไม่ได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ 

    • สัมผัสสัตว์พาหะโดยตรง
    • สัมผัสเนื้อของสัตว์พาหะ
    • การรับประทานเนื้อสัตว์ติดเชื้อ
    • การสัมผัสเชื้อในปัสสาวะของสัตว์พาหะ 

การสัมผัสทางอ้อม

ทางสถิติพบว่าส่วนใหญ่ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคฉี่หนู มักจะเกิดจากการสัมผัสทางอ้อมกับเชื้อแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็น 

    • การแช่น้ำหรือลุยน้ำท่วมขังที่ปนเปื้อนโรคฉี่หนูเป็นเวลานาน
    • การที่บาดแผลบนผิวหนังสัมผัสกับน้ำที่มีการปนเปื้อน 
    • การว่ายน้ำแล้วสำลักน้ำที่มีการปนเปื้อน 
    • การที่เยื่อบุตา จมูก ปาก สัมผัสกับน้ำที่มีการปนเปื้อน
    • การย่ำหรือลุยดินโคลนที่มีการปนเปื้อน
    • การหายใจเอาละอองที่เกิดจากของเหลวที่มีการปนเปื้อนเข้าไป 
    • การรับประทานพืชผักที่มีการปนเปื้อน 
    • การติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ 

ซึ่งการติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์นั้น ทำให้มีโอกาสแท้งเพิ่มสูงขึ้นได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีกรณีที่แม่และทารกรอดชีวิตมาได้อยู่เช่นกัน หากแต่เด็กจะมีอาการของโรคฉี่หนูเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ สตรีมีครรภ์ที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นโรคฉี่หนูจึงควรรีบเข้าพบแพทย์ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 

อาการของผู้เป็นโรคฉี่หนู 

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคฉี่หนูนั้น สามารถเป็นได้ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงมีอาการรุนแรงต่อชีวิต อีกทั้งอาการระยะแรกของโรคฉี่หนูสามารถเข้าใจว่าเป็นเพียงไข้หวัดฤดูฝนได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีประวัติการผจญกับน้ำท่วมขัง หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอุทกภัย ประกอบกับรับประทานยาไข้หวัดเบื้องต้นแล้วอาการยังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จึงควรรีบมาพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติและอาการโดยเร็ว ซึ่งอาการของผู้เป็นโรคฉี่หนู สามารถสรุปได้ ดังต่อไปนี้ 

  • อาการระยะแรก 

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคฉี่หนูจะมีอาการภายใน 2 วัน หรือยาวนานกว่า 26 วัน หลังจากที่มีประวัติการผจญน้ำท่วมขัง หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอุทกภัยได้ จึงไม่ควรประมาทหากยังไม่เกิดอาการใด ๆ ในช่วงแรก 

    •  มีไข้สูง 
    • มีอาการหนาวสั่น 
    • มีอาการปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ หรือปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดหน้าท้อง
    • มีอาการปวดต้นขา น่อง หรือบริเวณที่แช่น้ำ 
    • มีอาการเจ็บคอ หรือเจ็บหน้าอก 
    • มีอาการไอ คลื่นไส้ อาเจียน 
    • เยื่อบุตาแดง 
    • มีผื่น 
    • มีอาการตัวเหลืองคล้ายดีซ่าน 

อาการระยะแรกเหล่านี้ จะอยู่ได้นานเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นก็จะหายเป็นปกติช่วงระยะเวลา 1 – 3 วัน แล้วอาการจะกลับมารุนแรงเข้าระยะที่สอง 

  • อาการระยะที่สอง

อาการของระยะที่สองจะรุนแรงกว่าระยะแรก อีกทั้งมีโอกาสที่จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่าง ๆ ตามมา จึงควรสังเกตอาการเหล่านี้ไว้ให้ดี 

    • มีอาการมือ เท้า หรือข้อเท้าบวม
    • มีอาการเจ็บหน้าอก 
    • มีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย หัวใจเต้นผิดจังหวะ 
    • มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง คล้ายภาวะดีซ่านขั้นรุนแรง 
    • มีอาการไอแล้วมีเสมหะปนเลือด 
    • มีอาการเลือดกำเดาไหล เกิดจ้ำเลือดตามผิวหนัง 

ซึ่งนอกจากอาการที่พบเห็นได้ภายนอกเหล่านี้แล้ว โรคฉี่หนูยังสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนภายในร่างกายที่เราไม่สามารถรับรู้ได้หากไม่ได้พบแพทย์ เช่น อาการไตวายเฉียบพลัน อาการตับโต ม้ามโต ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เลือดออกในปอด หรือตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย จนเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิตได้ 

โรคฉี่หนูควรป้องกันอย่างไร ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยังคงมีฝนตกชุก หลีกเลี่ยงพื้นที่อุทกภัย หรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังต่าง ๆ ได้ยาก หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เราจึงควรที่จะป้องกันโรคฉี่หนูเอาไว้เมื่อต้องเข้าพื้นที่เหล่านั้นแทน 

  • ควรสวมรองเท้าบู้ตหรือป้องกันบริเวณที่ต้องแช่น้ำทุกครั้ง 

หากเป็นน้ำท่วมขังที่มีความลึกไม่มาก ควรสวมรองเท้าบู้ตหรือประยุกต์ถุงพลาสติกต่าง ๆ ไม่ให้ร่างกายต้องแช่น้ำที่อาจปนเปื้อนเป็นระยะเวลานาน

  • อย่าให้บาดแผลสัมผัสกับน้ำที่อาจปนเปื้อน 

หากมีบาดแผลบริเวณเท้า น่อง ขา หรือบริเวณที่ต้องสัมผัสกับน้ำท่วมขัง ควรป้องกันบาดแผลให้ดี อาจติดพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลสำหรับกันน้ำโดยเฉพาะและไม่หลุดง่าย

  • หากสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนไปแล้ว ควรรีบล้างออก

หากคุณหรือคนใกล้ชิดสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนไปแล้ว ทางที่ดีที่สุดควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด พร้อมเช็ดให้แห้งทันที 

  • รับประทานเนื้อสัตว์และพืชผักที่ปลอดภัย 

เนื่องจากโรคฉี่หนูนั้นสามารถคงอยู่ในสัตว์หรือบริเวณที่ปนเปื้อนได้นาน จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์หรือพืชผักที่มาจากแหล่งน้ำท่วมขัง แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรรับประทานโดยการปรุงสุกหรือผ่านความร้อนเป็นเวลานาน 

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะ

เนื่องจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถติดโรคฉี่หนูได้อย่างง่ายดาย จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์พาหะในภาวะที่มีน้ำท่วมขังหลากหลายพื้นที่เช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนูหรือปศุสัตว์ ถ้าหากคุณมีสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างสุนัข แล้วเพิ่งฝ่าวิกฤตน้ำท่วมมาด้วยกันก็ไม่ควรประมาท แล้วพาเขาไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและสุขภาพให้แน่ใจด้วยจะเป็นการดีที่สุด  

สำหรับใครที่ต้องการขอคำแนะนำ หรือ ต้องการตรวจรักษาโรคฉี่หนูโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ฮักษา คลินิก ทุกสาขา

โทร.  096-696-1999

LINE : @hugsa

Facebook : HUGSAMedical

HUGSA MEDICAL | รักษาด้วยหัวใจ ห่วงใยดุจญาติมิตร ใกล้ชิดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ