PM 2.5 ฝุ่นร้าย อันตรายต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่จบเดือนมกราคม ใครที่กำลังเผลอตัวสุขกายสบายใจต่อเนื่องมาจากช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็คงต้องขอให้ตั้งการ์ดรับมือกับภัยร้าย ที่กำลังก่ออันตรายต่อสุขภาพทั่วทุกหนทุกแห่งของประเทศไทย อย่างเจ้าฝุ่นร้าย PM 2.5 ซึ่งเราไม่สามารถที่จะป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่ต้นตอได้ทันทีทันใด และเป็นภัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากคนเราจะต้องหายใจเอาอากาศภายนอกเข้าไปตลอดเวลา หากใครที่กำลังประมาทหรือคิดว่าแค่ฝุ่น PM 2.5 ถ้าเราชินชาและอยู่กับมันไปเรื่อย ๆ คงไม่เป็นไร วันนี้ทางฮักษาคลินิกเราก็ได้รวบรวมปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจาก PM 2.5 มาให้คุณรู้และตระหนัก ว่าเหตุใดถึงต้องป้องกัน PM 2.5 ถึงขนาดนั้น
ทำความรู้จักกับวายร้ายตัวจิ๋ว PM 2.5
PM 2.5 คืออะไร?
คำว่า PM นั้นมีคำเรียกอย่างเป็นทางการ Particulate Matters ซึ่งโดยปกติจะเป็นคำใช้เรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่สามารถก่ออันตรายแก่สุขภาพได้ ส่วนตัวเลข 2.5 ที่ตามมานั้น คือขนาดของเจ้าฝุ่นจิ๋วที่เล็กถึงขนาด 2.5 ไมครอน หรือถ้าหากว่าแบบให้เห็นภาพ ก็ให้ลองนึกถึงเส้นผมของเรา 1 เส้นเมื่อถูกแบ่งผ่าออกเป็น 25 ส่วน นั่นแหละคือขนาดของเจ้าฝุ่นที่เราเรียกกันว่า PM 2.5
ด้วยขนาดของฝุ่นร้าย PM 2.5 ที่เล็กมากถึงขนาดนั้น ทำให้ขนจมูกของเราไม่สามารถที่จะกรองกักเก็บเจ้าฝุ่นนี้เอาไว้ได้ กระทั่งหน้ากากอนามัยบางชนิดเองก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ อีกทั้งฝุ่นร้าย PM 2.5 ยังสามารถคงอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานานมาก และสามารถถูกพัดพาไปได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตร ดังนั้นเมื่อเกิดฝุ่น PM 2.5 ขึ้นที่ไหน ทั้งสถานที่นั้นและพื้นที่โดยรอบจึงตกอยู่ในภาวะวิกฤต PM 2.5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
PM 2.5 เกิดจากอะไร?
PM 2.5 นั้นเหมือนกับเชื้อไวรัสตรงที่มีขนาดเล็กจิ๋ว และสามารถทำร้ายสุขภาพของมนุษย์ได้ แต่แตกต่างกันตรงที่เชื้อไวรัสเกิดขึ้นมาจากการพัฒนาตัวเองตามธรรมชาติ ส่วน PM 2.5 เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา หรือเป็นผลข้างเคียงจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น
- การเผาป่า เผาขยะ หรือเผาเพื่อการเกษตร
- ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม
- ฝุ่นจากการก่อสร้าง
- ควันจากการขนส่งและคมนาคม ในเครื่องยนต์ที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์
- การเผาปิโตรเลียมหรือถ่านหิน เพื่อผลิตไฟฟ้า
ซึ่งเมื่อการกระทำเหล่านั้นมารวมกัน จึงก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 และเพราะเป็นการกระทำจากหลายพื้นที่ หลายภาคส่วน ทำให้ในตอนนี้ประเทศไทยของเรายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นสุขภาพร่างกายของเราก็ไม่สามารถที่จะรอจนกว่าปัญหานี้จะถูกแก้ไขได้เช่นกัน
PM 2.5 สามารถก่อให้เกิดอันตรายอย่างไรได้บ้าง?
อันตรายในระยะสั้น
อันตรายในระยะสั้นก็คือเมื่อคุณออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ออกไปภายนอกอาคาร หรือสัมผัสกับฝุ่นละออง PM 2.5 แล้วจะเกิดอาการดังต่อไปนี้
- ระบบทางเดินหายใจเกิดอาการอักเสบฉับพลัน ทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก แสบจมูก ไอแบบมีเสมหะ แน่นหน้าอก
- เข้าไปทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดและทางเดินหายใจได้ง่าย จนสามารถเป็นไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบ หรือหูอักเสบได้
- ผู้ที่มีอาการของภูมิแพ้และหอบหืดอยู่ก่อนแล้ว อาจอาการกำเริบได้ในทันทีสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5
อันตรายในระยะยาว
อันตรายในระยะยาวก็คือเมื่อคุณได้สูดเอาละออง PM 2.5 เข้าไปเป็นระยะเวลานาน โดยไม่มีการป้องกัน ไม่มีการฟอกอากาศ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยครั้ง อาจเกิดอาการดังต่อไปนี้
- ส่งผลต่อทางเดินหายใจและปอด เนื่องจากเราสูดละออง PM 2.5 เข้าไปเมื่อหายใจ ฝุ่นร้ายที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจะสามารถทำให้คนปกติกลายเป็นโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง หรืออย่างเลวร้ายที่สุดคือสามารถทำให้เป็นมะเร็งปอดได้
- ส่งผลต่อหัวใจ เนื่องจากหัวใจมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนในเม็ดเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้าหากออกซิเจนในอากาศนั้นเกิดมีฝุ่น PM 2.5 ปะปน หัวใจเองก็จะได้รับภาระหนักเช่นเดียวกันกับปอด โดยอาจก่อให้เกิดตะกอนภายในหลอดเลือดจนเป็นภาวะหัวใจวาย หลอดเลือดสมองตีบ หัวใจขาดเลือด และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
- ส่งผลต่อสมอง หากฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าสู่หัวใจและกระแสเลือดได้แล้ว สมองที่ต้องได้รับออกซิเจนและเลือดไหลเวียนอย่างเพียงพอ ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งก็อาจก่อให้เกิดความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือนในสมอง หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เส้นเลือดในสมองตีบ หรืออย่างเลวร้ายที่สุดคือทำให้เส้นเลือดในสมองแตกจนทำให้เสียชีวิตหรือเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
- ส่งผลต่อผิวหนัง เพราะฝุ่น PM 2.5 นั้นไม่เพียงแต่จะสามารถทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายผิดปกติเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ร่างกายภายนอกผิดปกติได้เช่นกัน ซึ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่นอกอาคารเป็นระยะเวลานาน ตัวฝุ่น PM 2.5 จะเข้ามาเกาะตามผิวหนังแล้วทำลายเซลล์หนังกำพร้าของเราได้ ทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน ระคายเคือง มีผดผื่นตามจุดต่าง ๆ หรือเกิดสิวได้ง่ายยิ่งขึ้น
- ส่งผลต่อดวงตา เพราะเยื่อบุดวงตาเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกโดยตรง ไม่มีผิวหุ้มเพื่อปกป้องเอาไว้เหมือนร่างกายส่วนอื่น ทำให้ฝุ่น PM 2.5 สามารถทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง เกิดอาการตาแห้ง ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ ไปจนถึงทำให้จอประสาทตาผิดปกติได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ฝุ่น PM 2.5 ยังสามารถทวีคูณความเจ็บป่วยเหล่านี้ได้ ถ้าหากผู้ที่ได้รับฝุ่น PM 2.5 นั้นเป็นเด็กอายุน้อยที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่ เป็นผู้สูงอายุที่อวัยวะและระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายเริ่มเสื่อมถอย เป็นผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปอด หรือหัวใจอยู่แล้ว รวมถึงสตรีมีครรภ์เอง หากสูดฝุ่นละออง PM 2.5 เข้าไปโดยตรงก็สามารถก่อให้เกิดภัยร้ายกับบุตรในครรภ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการคลอดก่อนกำหนด การแท้งบุตร หรือเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์
เห็นหรือไม่ ว่าต่อให้ฝุ่น PM 2.5 จะมีขนาดเล็ก แต่ภัยร้ายของมันสามารถส่งผลยิ่งใหญ่ต่อชีวิตคนเราได้เลย ดังนั้น ในช่วงที่ฝุ่นละออง PM 2.5 กระหน่ำไม่สร่างซาอย่างทุกวันนี้ จึงควรที่จะต้องป้องกันตัวเองและคนที่เรารักให้ดีที่สุด
วิธีป้องกัน PM 2.5 โดยไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
ในตอนที่วิกฤตร้าย PM 2.5 ยังคงวนเวียนอยู่กับเราอย่างไม่ห่างหาย และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันทีทันใด การป้องกันตัวเองและคนที่เรารักเอาไว้ก่อน ก็ถือว่าเป็นทางออกและวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว หากคุณยังไม่รู้ว่าควรจะต้องป้องกันตรงไหน อย่างไรบ้าง ก็สามารถดูวิธีป้องกัน PM 2.5 ดังต่อไปนี้ได้เลย
1. สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5
ทุกครั้งที่ต้องออกนอกอาคาร หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งที่จะป้องกันระบบทางเดินหายใจของเราได้ดีที่สุดก็คือหน้ากากป้องกัน PM 2.5 โดยเฉพาะ โดยทุกวันนี้ก็มีทั้งหน้ากาก N95 ที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ 95% และหน้ากาก N99 ที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 99% กันแล้ว ถ้าหากคุณสวมใส่อย่างถูกต้อง ต่อให้ฝุ่นละอองหนาแค่ไหนก็ทำอะไรคุณไม่ได้อย่างแน่นอน
2. ใช้เครื่องฟอกอากาศ
หากคุณไม่มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน สามารถปิดประตูปิดหน้าต่างให้มิดชิด แล้วใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่น PM 2.5 ออกจากอากาศ เพื่อไม่ให้เราหรือคนในบ้านเผลอสูดดมเข้าไปได้ นอกจากนี้หากใครกำลังจะซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรตรวจสอบยี่ห้อและอนุภาพให้ดี ว่าป้องกัน PM 2.5 ได้หรือไม่
3. สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
สำหรับใครที่รู้สึกว่าออกนอกบ้านแล้วรู้สึกระคายเคืองผิวหนัง ดวงตา ขอแนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิดแขนยาวขายาวหรือแว่นกันลมเพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 และที่สำคัญเลยก็คือลดการออกกำลังกายกลางแจ้ง เนื่องจากภายนอกมีฝุ่น PM 2.5 อยู่เต็มไปหมดแม้คุณจะมองไม่เห็น ถ้าหากออกกำลังกายแล้วสูดลมหายใจเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ฝุ่นละออง PM 2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ปอด และหัวใจคุณได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
แต่ถ้าหากคุณป้องกันตัวเองและคนที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่ แล้วยังคงมีอาการที่น่าสงสัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ สามารถมาปรึกษาได้ที่ ฮักษาคลินิก คลินิกที่พร้อมจะช่วยเหลือสุขภาพของคุณในทุก ๆ ด้าน เพื่อที่เราจะได้ผ่านวิกฤต PM 2.5 นี้ไปด้วยกัน